ศูนย์ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย

รมว.ศธ.เร่งหามาตรการสอนเสริมให้ครบหลักสูตร สช.ปิ๊งไอเดียปรับชั่วโมงกิจกรรมเป็นชั่วโมงเรียน ส่วนเด็กช่วยทำความสะอาดบ้าน ให้คิดเป็นคะแนนกิจกรรมแทน สกอ.เผยมหา’ลัยเสียหายยับ

จากสถานการณ์น้ำท่วมส่งผลให้มหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนต้องเลื่อนเปิดภาคการ ศึกษาที่2/2554 ออกไปช่วงเดือนธันวาคมและมกราคม2555 พร้อมกันนั้น มหาวิทยาลัยต่างๆ ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยานิสิตนักศึกษาที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง(มร.) ยกเว้นค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียม แจกตำราเรียนฟรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ผ่อนผันค่าเล่าเรียน ช่วยค่าครองชีพ และยกเว้นค่าหอพัก ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) เช่นมรภ.พระนคร ผ่อนผันค่าเล่าเรียน จัดหากองทุนกู้ยืม มหาวิทยาลัยเอกชน เช่น มหาวิทยาลัยพายัพช่วยผ่อนผันค่าเล่าเรียน จัดหาทุนการศึกษา ค่าที่พักและค่าครองชีพนั้น

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ภายหลัง ศธ.ได้ออกประกาศ ศธ.ให้สถานศึกษาและสถาบันการศึกษาในกรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และ 4 อำเภอของจังหวัดนครปฐม คือสามพราน บางเลน นครชัยศรี และพุทธมณฑลเลื่อนเปิดเทอมไปหลังวันที่ 21 พฤศจิกายน ส่วนสถานศึกษาในจังหวัดที่น้ำลดแล้ว ให้เป็นอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) พิจารณาตามความเหมาะสมนั้น ในส่วนของมหาวิทยาลัยก็เช่นกัน หากสถาบันใดมีความพร้อมก็สามารถเปิดเรียนได้ตามกำหนดดังกล่าวแต่หากน้ำยัง ไม่ลดก็ให้เปิดเรียนเมื่อพร้อม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อนิสิตนักศึกษา ในส่วนของการเรียนการสอนนั้น มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะมีมาตรการสอนเสริมหรือปรับตารางเรียนตามความเหมาะสม ซึ่งถือเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยแต่ในส่วนของโรงเรียนนั้น ที่ผ่านมามอบหมายให้ความเหมาะสมซึ่งถือเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยแต่ในส่วนของ โรงเรียนนั้น ที่ผ่านมามอบหมายให้นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ไปหามาตรการสอนเสริมเพื่อให้นักเรียนได้เรียนครบหลักสูตรการเรียนรู้

นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่าสช.มีโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมประมาณ 1,000 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบมาก 200 โรงเรียน โดยได้เตรียมเสนอขออนุมัติงบประมาณซ่อมแซมอาคารและครุภัณฑ์ที่เสียหายจากคณะ รัฐมนตรี (ครม.) 43 ล้านบาท สำหรับการเรียนการสอนนั้น หากโรงเรียนใดสามารถเปิดเทอมได้ตามประกาศศธ.ให้เปิดทันที แต่ถ้ายังมีนักเรียนที่ไม่สามารถมาเรียนได้ตามปกติ ให้โรงเรียนอนุโลมไม่นับเป็นวันลา และเมื่อมาเรียนได้ให้โรงเรียนจัดสอนเสริมในช่วงเวลาหลังเลิกเรียนหรือใน ช่วงเสาร์-อาทิตย์โดยพิจารณาความเหมาะสมเป็นรายๆ ไป ส่วนโรงเรียนที่ยังไม่สามารถเปิดเรียนได้ภายในวันที่21 พฤศจิกายน ให้อำนาจการตัดสินใจอยู่ในดุลพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา สามารถประกาศหยุดเรียนได้ครั้งละ 7 วันอยู่แล้ว

“ทางโรงเรียนยังต้องจัดสอนเสริมให้นักเรียนซึ่งแต่ละโรงเรียนได้เตรียม การไว้แล้ว เช่น เปิดสอนเสาร์อาทิตย์ และปรับชั่วโมงกิจกรรมมาเป็นชั่วโมงเรียนปกติ ส่วนคะแนนกิจกรรม ให้ถือว่าการที่นักเรียนประสบภัยน้ำท่วมอยู่ที่บ้านก็ได้ช่วยผู้ปกครองทำ ความสะอาดบ้าน หรือบางคนอาจไปช่วยบำเพ็ญประโยชน์ในเรื่องอื่นๆ ก็ให้ปรับมาเป็นคะแนนกิจกรรมแทน” นายชาญวิทย์กล่าว

นายพินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ได้รวบรวมตัวเลขประมาณการความเสียหายเบื้องต้นของมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนที่ ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม เสนอคณะอนุกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่มี น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ. เป็นประธาน จำนวนวงเงิน2,200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ต้องรอสำรวจตัวเลขอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังน้ำลด โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิตที่ก่อนหน้านี้รายงานตัวเลขความเสียหายมาแค่73 ล้านบาท แต่ล่าสุดทราบว่าความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาทแล้ว และยังไม่ใช่ตัวเลขที่ยุติเพราะยังต้องรอสำรวจหลังน้ำลด สำหรับมหาวิทยาลัยที่ทราบตัวเลขความเสียหายชัดเจนแล้วเนื่องจากเป็นการสำรวจ หลังน้ำลด มีดังนี้วิทยาลัยที่ทราบตัวเลขความเสียหายชัดเจนแล้วเนื่องจากเป็นการสำรวจ หลังน้ำลด มีดังนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) นครสวรรค์ เสียหายจำนวน 75 ล้านบาท มรภ.กำแพงเพชร 6.9 ล้านบาท วิทยาลัยชุมชนพิจิตร 39 ล้านบาทมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา 5.8 แสนบาท รวมเป็นจำนวน 86 ล้านบาท ทั้งนี้ สกอ.ได้รับการจัดสรรงบกลางจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อช่วยเหลือในระยะแรก จำนวน 26 ล้านบาท จำแนกเป็นหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 8 ล้านบาท และหน่วยสัตวแพทย์ 18 ล้านบาท และ สกอ.จะสำรวจเพื่อเสนอของบฟื้นฟูในระยะที่ 3 ต่อไป เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท

“ตัวเลขความเสียหาย 2,200 ล้านบาท ยังไม่รวมการประเมินครั้งล่าสุดของ มธ. ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยรัฐ ด้วยกัน ล่าสุดทราบว่าความเสียหายของ มธ.เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท(อธิการบดี มธ.ประเมินก่อนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณ 5,000 ล้านบาท) รองลงมาเป็นมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.)โดยเสียหายกว่า 667 ล้านบาท ส่วนมหาวิทยาลัยเอกชนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ซึ่งรายงานตัวเลขเบื้องต้นเข้ามากว่า 600 ล้านบาท รองลงมาน่าจะเป็นมหาวิทยาลัยรังสิต แต่ยังไม่รายงานตัวเลขเข้ามา” รองเลขาธิการ กกอ.กล่าว และว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มหาวิทยาลัยต่างๆ มีมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือนิสิตนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบทั้งเรื่องการ เงิน หอพัก บางแห่งช่วยจัดหาทุนการศึกษา ผ่อนผันการชำระค่าเล่าเรียน ไปจนถึงบางแห่งยกเว้นค่าหน่วยกิตและยกเว้นค่าหอพักให้

นายนำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) กล่าวว่าจากการประชุมร่วมกับฝ่ายบริหาร มทร.ธัญบุรีมีมติว่า มทร.ธัญบุรีจะเลื่อนเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 19 ธันวาคม ส่วนความเสียหายของมหาวิทยาลัยนั้น ประเมินเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่าหลัก 1 พันล้านบาท และนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบประมาณ 1 หมื่นคน ที่ต้องช่วยเหลือเยียวยา แต่ยังไม่สามารถสรุปมาตรการช่วยเหลือได้ แต่คิดว่าคงเหมือนมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ยืดเวลาการชำระค่าเทอม ปรับลดค่าธรรมเนียม ตนมองว่าจะต้องรอผลการสำรวจจำนวนนักศึกษาและสรุปความเสียหายก่อน จึงจะรู้ว่าควรออกมาตรการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ จะประชุม ทปอ.มทร. เพื่อหารือว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือนักศึกษาอย่างไรบ้างรวมทั้งหารือถึงวัน เปิดภาคเรียนของแต่ละ มทร.ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยด้วย

--------------------------------------------------

ที่มา http://www.news.rmutt.ac.th/archives/16541