น้ำท่วมอยุธยากระทบมหาจุฬาฯจม
น้ำท่วมอยุธยากระทบมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ ผู้บริหารเผยมืดต้องการไฟฟ้า - ประปาด่วน เรียกร้องให้ทางราชการจัดระเบียบการเดินเรือ นิคมไฮเทคสุดต้านทานอพยพคนงานออก ทหารเข้าอุดพื้นที่ นายอำเภอบางปะอินระบุทางออกเพื่อรับมือต้องขิตู้คอนเทนเนอร์มาทำเป็นคันกั้น -----------------------------------------------------------------------------------
13ต.ค.2554 พระวิสุทธิภัทรธาดา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร ) ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ระดับน้ำใน มจร. สูง 1-2 เมตร แผ่กระจายท่วมพื้นที่ภายในทั้งหมด 300 ไร่ ทุกอาคารชั้นที่ 1 น้ำท่วมหมด ส่วนบริเวณศูนย์อพยพ ได้ย้ายไปอยู่บนอาคารชั้นที่ 2-3 ขณะนี้มีผู้อพยพมากกว่า 2,000 คน โดยทางมูลนิธิชัยพัฒนาในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เข้ามาดูแลเรื่องอาหาร น้ำดื่ม มีเพียงพอ จุดนี้ไม่น่าห่วง ที่เป็นปัญหามากที่สุดคือเรื่องไฟฟ้า น้ำประปา ถูกตัดหมด อยากให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดพนักงานไปยกระดับหม้อแปลงให้สูงขึ้น เพื่อให้ใช้ไฟฟ้าได้
ส่วนทรัพย์สินที่จมน้ำบางส่วน เช่นพระไตรปิฎก ส่วนมากขนขึ้นไปไว้ที่สูง มีจมเป็นบางส่วน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือผู้ที่อยู่รอบๆ บริเวณใกล้เคียงกับ มจร. มีความลำบากมาก โดยทาง มจร. ได้มอบให้เจ้าหน้าที่นำถุงยังชีพไปแจกให้เป็นบางส่วน ทางด้านการศึกษาขณะนี้ ทาง มจร สอบเสร็จ พระ เณรได้กลับไปยังภูมิลำเนาเป็นส่วนมาก
ทั้งนี้ช่วงเช้าชาวบ้านและพระสงฆ์ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ช่วยกันขนย้ายพระไตรปิฎกหนีน้ำท่วม หลังจากมีระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.20 ม. พระวิทธิภัทรธาดากล่าวว่า พระไตรปิฏกมีจำนวน 30,000 เล่มขณะนี้ ขนได้แล้ว เหลืออีกประมาณ 10,000 เล่ม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่และทหารได้เร่งขนย้ายขึ้นบนที่สูงก่อนที่น้ำจะไหลท่วมอีกครั้ง
เรียกร้องให้ทางราชการจัดระเบียบการเดินเรือ
พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้รับทราบปัญหาเกี่ยวกับการสัญจรของผู้ปรัสบภัยว่า มีความลำยากบาก เรือรับจ้าง คิดค่าจ้างเที่ยวละ 100 ถึง 300 บาท / คน ได้นำเรื่องไปเสนอให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ช่วยจัดเจ้าหน้าที่ไปควบคุมเกี่ยวกับ เรือต่าง ๆ โดยจะให้เรือได้วิ่งเป็นสายเช่น สายที่ 1 วิ่งตรงไปศาลากลาง สายที่ 2 ไปกองบังคับการบริเวณคลองมะขาดเรียง สายที่ 3 ไปตลาดหัวรอ ตลาดเจ้าพรหม เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
“วิทยา”เร่งสร้างสะพานแบร์ริ่งภายในเกาะเมือง
นายวิทยา บุรณศิริ รมว. สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำได้ไหลข้ามถนนสายเอเซีย สายพหลโยธิน เป็นบางช่วง รวมทั้งภายในเกาะเมืองอยุธยา ซึ่งเชื่อว่าจะมีปริมาณน้ำตกค้างนาน ประมาณ 2 เดือน จึงได้มอบหมายให้แขวงการทางพิเศษไปศึกษาในการสร้างสะพานแบร์ริ่ง เพื่อให้รถได้สัญจรไปได้ โดยตนจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีและรีบลงมือสร้างในเร็ว ๆ นี้
กรุงเก่าเปิดศูนย์อพยพเพิ่ม
นายวิทยา เปิดเผยด้วยว่า มีผู้ประกอบการได้แจ้งความประสงค์ให้ตลาดโรงเกลือ ในพื้นที่ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน เนื้อที่ 30 ไร่ เป็นศูนย์อพยพผู้ประสบภัยและทำเป็นลานจอดรถหนีภัยน้ำท่วม เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นอย่างหนัก มีผู้ประสบภัยจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งจะได้ประสานให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์อพยพและลานจอดรถทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และปทุมธานี สามารถเข้ามาจอดรถได้
นิคมไฮเทคสุดต้านทานอพยพคนงานออก
ที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ม.5-6 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เกิดคันกั้นน้ำพังทลายลงมา ที่บริเวณด้านหลังโรงงานบริษัท อาปีโก ไฮเทค จำกัด กว้าง 5 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม มีการอพยพคนงาน 600 คนที่ ยังอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์และเสริมแนวป้องกันในโรงงาน ขึ้นรถบรรทุกสิบล้อออกมาจากนิคมอย่างทุลักทุเล ระดับน้ำที่ไหลเข้าท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารกว่า 200 นาย ได้นำรถจีเอ็มซีจำนวนกว่า 10 คัน และนำกำลังเข้าทำคันกั้นน้ำและไม่ให้ท่วมบริเวณนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค
นายนที บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า น้ำได้ไหลทะลักผ่านคันดินนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคที่ทำเสริมไว้ก่อนหน้านี้ มีความสูง 2-5 เมตร โดยน้ำได้ทะลักเข้าด้านหลังโรงงานอาปีโก้ ประเทศไทย จำกัด ปริมาณน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต่างเร่งระดมช่วยกู้คันดินดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายรวม 6 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง แต่ปรากฏว่า น้ำที่ไหลเชี่ยวกราดและมีปริมาณมาก ไหลเข้าท่วมโรงงาน 149 โรง และจากการหารือกับทุกฝ่าย เห็นควรว่าจะใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาทำคันกั้นน้ำในจุดที่น้ำทะลักเข้ามา
นำตัวผู้ป่วยขึ้นฮ.ส่งรักษา
ที่บริเวณถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน่วยการแพทย์ฉุกเฉิน รับนาย ประสิทธิ์ ลื่นยศ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 17/2 ม.5 ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ออกมากจากบ้านพักที่ถูกน้ำท่วม ทั้งนี้นายประสิทธิ์ ป่วยเป็นโรคปอด ต้องเร่งส่งตัวรักษาโดยด่วน โดยใช้ เฮลิคอปเตอร์ลงจอดบริเวณถนนสายเอเชีย เพื่อนำตัวผู้ป่วยส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี
ผวาภัยจากจระเข้
นายวิรัตน์ สุขสถาน ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้พบจระเข้ขนาดความยาวประมาณ 3 เมตร ลอยตัวอยู่เหนือน้ำบริเวณด้านข้างเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งคืนที่ผ่านมา ก็มีผู้พบจระเข้จำนวน 5 ตัว อยู่ในหมู่บ้านวนเวียนไปมา เป็นฝูงไม่มีใครกล้าจับ เกรงได้รับอันตราย อยากให้ผู้เชี่ยวชาญเร่งจับจระเข้โดยเร็วเพราะเกรงว่าจะก่ออันตรายได้
เขียนป้ายติดทำสัญลักษณ์ขอความช่วยเหลือ
ที่ศูนย์บัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพระนครศรีอยุธยา นายอารีย์ ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในที่ประชุมเพื่อบูรณาการจัดทำแผนปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนรอบนอก ซึ่งจากการที่นาวาเอกอารักษ์ แท่งเอี่ยม รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมกับเรือของกองทัพเรือ ได้ตระเวนออกให้ความช่วยเหลือวานนี้ ( 12 ) พบว่าผู้ประสบภัยในเขตเกาะเมืองเหลือน้อยมาก เหลือแต่ผู้ที่อยู่ห่างไกลที่ยังเข้าไปไม่ถึงเท่านั้น ซึ่งจะได้หาทางนำความช่วยเหลือเข้าไปให้ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ตามชุมชนต่างๆในเกาะเมืองข ณะนี้การนำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึงส่วนใหญ่จะเข้าไปถึงในส่วนริมเส้นทางหลักเท่านั้น โดยพบว่าซอยและชุมชนต่างๆรวมทั้งโรงเรียน ผู้เดือดร้อนจะใช้วิธีการผูกธงสีแดง เขียนป้ายบอกจากจำนวนคนที่อยู่อาศัย และหมาเลขโทรศัพท์เอาไว้ นอกจากนี้พบว่ามีประชาชนและบริษัทเอกชนต่างๆที่เป็นห่วงเป็นใยนำสิ่งของมาแจกจ่ายนั้น หากไม่มีการประสานกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานราชการ นำไปแจกจ่ายเองก็จะเกิดการยื้อแย่ง เพราะผู้เดือดร้อนต่างต้องการสิ่งของที่นำมาให้